วิธีแก้ปัญหาเกมกระตุกทั้งมือถือและ PC ให้เล่นได้ลื่นขึ้น หัวไม่ร้อน

วิธีแก้ปัญหาเกมกระตุกเบื้องต้น เกิดจากอะไร และควรทำอย่างไรเมื่อเล่นเกมแล้วเฟรมเรตตก ไม่ลื่น สำหรับทั้งบนมือถือและ PC

เกมกระตุก

การเล่นเกมแล้วเจอปัญหากระตุก เฟรมเรตตก ภาพไม่ลื่น เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดสำหรับเกมเมอร์อย่างมาก ไม่ว่าจะเล่นบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ปัญหาเหล่านี้เรียกได้ว่าทำลายประสบการณ์ในการเล่นเกมพอสมควรเลยทีเดียว แล้วเราจะแก้ปัญหาเกมกระตุกยังไงดี… วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากเพื่อน ๆ ให้ได้ลองนำไปทำตามกันแล้ว !

เกมกระตุก เกิดจากอะไร

ก่อนจะแก้ก็ต้องรู้สาเหตุเสียก่อน ซึ่งการที่เล่นเกมแล้วกระตุกหรือเฟรมเรตตกนั้นสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น

  • สเปกเครื่องไม่ถึงขั้นต่ำที่เกมกำหนด

  • มีโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันอื่นรันอยู่เบื้องหลังมากเกินไป

  • หน่วยความจำ (RAM) หรือพื้นที่จัดเก็บเต็ม

  • ระบบระบายความร้อนทำงานไม่ดี ทำให้เครื่องร้อน

  • อินเทอร์เน็ตช้าหรือไม่เสถียร (ในกรณีเล่นเกมออนไลน์)

  • ซอฟต์แวร์ระบบหรือไดรเวอร์ยังไม่อัปเดต

เล่นเกมแล้วกระตุก มือถือ แก้ยังไงดี

1. ปรับกราฟิกในเกมให้ต่ำลง

ในกรณีที่เกมนั้น ๆ มีตัวเลือกให้สามารถตั้งค่ากราฟิกหรือปิดเอฟเฟกต์แสง/เงา ลดความละเอียดของเกมได้ ก็แนะนำให้ลองเข้าไปปรับในเมนูการตั้งค่าของเกมดู ซึ่งเมื่อปรับลดระดับกราฟิกในเกมให้ต่ำลงแล้วก็มักจะช่วยให้ได้เฟรมเรตที่สูงขึ้น หรือก็คือเล่นได้ลื่นขึ้นนั่นเอง

2. เคลียร์ RAM และปิดแอปเบื้องหลัง

หากเราเปิดแอปฯ ไว้เยอะ ๆ แล้วสลับมาเล่นเกม ก็เป็นไปได้ว่าแอปฯ เหล่านั้นอาจยังทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งกินทรัพยากรเครื่องและทำให้เกมกระตุกได้ โดยเฉพาะในเครื่องที่มีแรมน้อย แนะนำให้ลองปิดแอปฯ ที่ไม่ใช้ นอกจากนี้มือถือบางรุ่นก็อาจมีโหมด Game Booster ที่ช่วยจัดสรรทรัพยากรเครื่องให้อัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้

3. ล้างแคชของเกมหรือรีสตาร์ทเครื่อง

อีกหนึ่งวิธีที่น่าลองทำดูก็คือการล้างแคชของเกมที่เล่น โดยให้เข้าไปที่เมนูการตั้งค่า > แอปพลิเคชัน > เกม > ล้างแคช (เมนูคำสั่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นมือถือที่ใช้) นอกจากนี้ก็ควรรีสตาร์ตเครื่องโทรศัพท์มือถือสักครั้งด้วยเพื่อเป็นการรีเฟรชระบบปฏิบัติการ

4. หลีกเลี่ยงการเล่นขณะเครื่องร้อน

การที่มือถือเครื่องร้อนจะส่งผลให้ CPU ลดประสิทธิภาพการทำงานลง เพื่อไม่ให้ตัวเครื่องมีอุณหภูมิสูงเกินไปจนเกิดความเสียหาย และนั่นก็อาจทำให้การเล่นเกมเกิดอาการสะดุดหรือกระตุก เฟรมเรตตก ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการทำให้เครื่องเย็นลง เช่น ถอดเคสออก ติดอุปกรณ์เสริมที่ช่วยระบายความร้อนเพิ่มเติม หรือพักเครื่องประมาณ 5-10 นาที และควรเลี่ยงการชาร์จไปเล่นไปเพราะอาจทำให้เครื่องร้อนมากขึ้น

5. อัปเดตซอฟต์แวร์

ลองตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกมและระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือนั้นมีการอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว เพราะการไม่อัปเดตนาน ๆ อาจทำให้เกมหรือระบบมีบั๊กต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องรวมถึงการเล่นเกมได้นั่นเอง

เล่นเกมแล้วกระตุก PC แก้ยังไง

1. ปรับลดกราฟิกในเกม

การปรับกราฟิกในเกมสูงเกินกว่าที่คอมพิวเตอร์จะประมวลผลไหว จะส่งผลให้เฟรมเรตที่ได้นั้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้เล่นแล้วรู้สึกว่าไม่ลื่น กระตุก ซึ่งเมื่อเข้าไปในเมนูการตั้งค่าของตัวเกมเพื่อปรับลดระดับกราฟิกให้ต่ำลงก็มักจะสามารถช่วยเพิ่มเฟรมเรตจนเล่นลื่นขึ้นได้ และถ้าเล่นบนโน้ตบุ๊กก็ควรเสียบปลั๊กเพื่อให้ตัวเครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้หากใช้การ์ดจอรุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับฟีเจอร์การอัปความละเอียดภาพและ Frame Generation การเปิดใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน

2. ปิดโปรแกรมพื้นหลัง

หากมีการเปิดโปรแกรมไว้หลายโปรแกรมจนทำให้แรมเต็ม หรือมีบางโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่เบื้องหลังในขณะที่เล่นเกม ก็สามารถส่งผลให้เกมมีอาการกระตุกได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ควรปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในขณะนั้นไปก่อน โดยเฉพาะโปรแกรมสแกนไวรัสที่มักกินทรัพยากรเครื่องค่อนข้างมาก โดยแนะนำให้ใช้ตัวป้องกันไวรัสที่ติดมากับ Windows อย่าง Windows Security หรือ Windows Defender ก็เพียงพอแล้ว

3. อัปเดตไดรฟ์เวอร์การ์ดจอ

ไม่ว่าจะใช้การ์ดจอ NVIDIA, AMD หรือ Intel สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือการหมั่นเช็กและอัปเดตไดรฟ์เวอร์การ์ดจอให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพราะไดรฟ์เวอร์เวอร์ชั่นใหม่ ๆ มักจะมีการปรับปรุงให้การ์ดจอสามารถทำงานได้เสถียรมากขึ้น รวมถึงรองรับเกมใหม่ ๆ ได้ดีขึ้นด้วย

4. อัปเกรดสเปกคอมพิวเตอร์

ถ้าหากคอมพิวเตอร์ที่ใช้เล่นเกมอยู่นั้นค่อนข้างเก่าหรือมีอายุมากกว่า 5 ปีแล้ว ก็อาจใช้เล่นเกมใหม่ ๆ ที่มีกราฟิกระดับสูงได้ไม่ค่อยดีนัก การอัปเกรดสเปกและซื้อเครื่องใหม่ที่มีสเปกสูงเพียงพิอจึงเป็นอีกหนึ่งทางออกที่แก้ปัญหาได้ดี โดยแนะนำให้เน้นการอัปเกรดการ์ดจอเป็นหลัก เนื่องจากส่งผลต่อการเล่นเกมมากที่สุด รองลงมาก็เป็น CPU ส่วนแรมในปัจจุบันแนะนำว่าขั้นต่ำควรเป็น 16GB ขึ้นไป นอกจากนี้ก็ควรใช้ SSD ในการลงเกมแทนฮาร์ดดิสก์ด้วย เพื่อให้โหลดเกมได้เร็วขึ้น

5. ตรวจสอบระบบระบายความร้อน

การที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์มีอุณหภูมิสูงเกินไปจะทำประสิทธิภาพในการประมวลผลลดลง ซึ่งส่งผลให้เกมมีอาการกระตุกหรือเฟรมเรตตกได้ โดยแนะนำให้ใช้โปรแกรมตรวจเช็กความร้อนอย่าง HWMonitor หากพบว่า CPU ขณะเล่นเกมมีอุณหภูมิสูงเกิน 90 องศาเซลเซียส แนะนำให้ทำความสะอาดพัดลมภายในเคสหรือติดฮีทซิงก์ระบายความร้อนเพิ่มเติม หรือในกรณีที่ใช้โน้ตบุ๊กก็อาจใช้แผ่นรองโน้ตบุ๊กที่มีพัดลมช่วยระบายความร้อน

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังประสบกับปัญหาเกมกระตุกหรือเฟรมเรตตก ไม่ว่าจะเป็นบนคอมพิวเตอร์หรือมือถือ การทำตามวิธีการต่าง ๆ ที่เราได้แนะนำไป ก็น่าจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การเล่นได้ไม่มากก็น้อยครับ

บทความเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีแก้ปัญหาเกมกระตุกทั้งมือถือและ PC ให้เล่นได้ลื่นขึ้น หัวไม่ร้อน อัปเดตล่าสุด 7 มิถุนายน 2568 เวลา 14:49:32 4,104 อ่าน
TOP